วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน


บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน


การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน


http://www.chicclick.th.com/wp-content/uploads/gallery_33-290x290.jpg

1.แนว โน้มในอนาคตภายในครอบครัวจะมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวันกันมาก ขึ้น  เช่น โทรศัพท์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ วีดิเท็กซ์ ไมโครคอมพิวเตอร์ ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความสำคัญมากในปัจจุบันและมีแนวโน้มมากยิ่งขึ้นในอนาคต เพราะเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานสารสนเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพนับตั้งแต่การผลิตการจัดเก็บการประมวลผลการเรียกใช้2.ขอบข่ายของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขอบเขตของเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นจะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์และกระบวนการหลายด้าน เช่นการสื่อสารระบบดาวเทียมเทคโนโลยีการจัดการฐานข้อมูลการจัดพิมพ์ระบบอิเล็กทรอนิกส์การประมวลตัวเลขการประมวลภาพ   คอมพิวเตอร์สำหรับช่วยออกแบบและช่วยการผลิต(CAD/CAM)เป็นต้น  ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศจะประกอบด้วย    

2.1  ระบบประมวลผลรายการ  (Transaction  Processing  System)  เป็นระบบที่ทำหน้าที่ในการปฏิบัติงานประจำและทำการบันทึกจัดเก็บประมวลผลที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เช่น การจองบัตรโดยสารเครื่องบิน   การฝาก-ถอนอัตโนมัติเป็นต้น



http://www.thaibusinesspr.com/wp-content/uploads/2009/06/kbank-orft.jpg

   2.2   ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ  (Management  Information  Systems)  เป็นระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับกลางเพื่อใช้ในการวางแผน   บริหารจัดการและควบคุมงานโดยทั่วไประบบนี้จะเชื่อมโยงข้อมูลที่อยู่ในระบบประมวลผลเข้าด้วยกัน   

   2.3  ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision  Support  System)  เป็นระบบที่ช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจสำหรับปัญหาที่อาจมีโครงสร้างหรือ ขั้นตอนการหาคำตอบที่แน่นอนตายตัวเพียงบางส่วนหรือเป็นกรณีเฉพาะ   นอกจากนี้ระบบนี้ยังเสนอทางเลือกต่างๆให้ผู้บริหารพิจารณา  เพื่อเลือกทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด    

3.หน้าที่ของเทคโนโลยีสารสนเทศเทคโนโลยีสารสนเทศมีหน้าที่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับ  สารสนเทศตาม ที่ต้องการถ้าปราศจากเทคโนโลยีสารสนเทศแล้วจะเป็นการยากอย่างยิ่งในการสื่อ สารสนเทศทั้งนี้เพราะในภาวะปัจจุบันมีสารนิเทศจำนวนมากมายมหาศาล เพราะการเพิ่มปริมาณของเอกสารอย่างล้นเหลือ(Publication Explosion)  ทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า(INFORMATION  EXPLOSION) ประกอบกับสภาวะเงินเฟ้อ   รวมทั้งความคาดหวังของผู้ใช้สารสนเทศที่ตื่นตัว  และมีความต้องการสารสนเทศทั้งในแง่ของความรวดเร็วและความถูกต้อง


http://theeraporn14.files.wordpress.com/2012/07/phrenology10.jpg?w=256&h=300

4.การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาหลายเรื่องด้วยกันได้แก่    

   4.1  การ ประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศด้านใดบ้างที่จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานจะเห็น แล้วว่าเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นสามารถนำไปประยุกต์ได้หลายด้าน   

   4.2  การวางแผนกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศหน่วยงานขนาดใหญ่ระดับกระทรวงกรมหรือบริษัทขนาดใหญ่จำเป็นจะต้องมีแผนกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมเพื่อใช้เป็นแผนที่สำหรับนำไปสู่การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ   

   4.3  การกำหนดมาตรฐา เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ  

   4.4  การลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเราควรลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมากสักเท่าใดนี่เป็นคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ชัดเจน  

   4.5  การจัดองค์กรเมื่อมีแผนงานและงบประมาณสำหรับดำเนินการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแล้วต่อไปก็จำเป็นที่จะต้องพยายามสร้างองค์กรเทคโนโลยีสารสนเทศ


http://www.ku.ac.th/e-magazine/oct48/know/mo3.jpg

   4.6 การบริหารงานพัฒนาระบบการพัฒนาระบบนั้นเป็นงานที่ต้องวางแผนอย่างดี  และต้องมีหัวหน้าโครงการที่มีความรู้ทั้งทางด้านเทคนิคและทางด้านการสื่อสารทั้งด้วยวาจาและเป็นเอกสาร  

   4.7 การจัดการผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศคือพยายามทำให้ผู้ใช้มีความรู้สึกที่ดีต่อแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ  

   4.8 การจัดการข้อมูล  ปัญหาคือการแบ่งปันการใช้ข้อมูล  การที่แผนกต่างๆต้องพยายามจัดเก็บข้อมูลมาใช้เอง  ทำให้ต้องทำงานซ้ำซ้อน  และเกิดความสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุ  

   4.9 การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบการนำเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมมาใช้นั้นเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกทำงานร่วมกับเราได้ถ้าหากบุคคลภายนอกเหล่านี้ทำงานตรงไปตรงมาเราคงก็จะไม่มีปัญหาอะไร  

   4.10 ความสัมพันธ์กับผู้บริหารเราต้องพยายามสร้างผลงานที่ผู้บริหารเห็นแล้วประทับใจต้องพยายามชี้ว่าการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้นั้นคุ้มค่าเงินลงทุน

   4.11 การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ   งานวิจัยนี้อาจเป็นเพียงงานขนาดเล็กที่ทำเพื่อให้เข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

5การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ            

   5.1  การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานสำนักงานปัจจุบันสำนักงานจำนวนมากได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลาย  ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว  ความถูกต้องและสามารถจัดพิมพ์ฉบับซ้ำได้เป็นจำนวนมาก  เป็นต้น

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhMozYtmVTNcdzc3I4N6QLHCtyLlxigHcbKeQb2_vH7bvR-YOKN7MEiMSCZsTr66CAKA222aBKPYlOeqQ6aM_f7oSFKdHEh5S1GqEa263jrhlbJaElwlzTITd2EObFBSeaEmlYLvl5wKLQj/s1600/HP+5100+new.jpg

    5.2  การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรมโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งนำระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ  (Management Information System : MIS)  เข้ามาช่วยจัดการด้านผลิตการสั่งซื้อการพัสดุ  การเงิน  บุคลากร  และงานด้านอื่นๆในโรงงาน  MIS            

    5.3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและพาณิชย์  สถาบันการเงิน  เช่น  ธนาคารได้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของ  ATM  เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝากถอน  โอนเงิน  ในส่วนของงานประจำธนาคาร             

    5.4 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการบริการการสื่อสาร   ได้แก่  การบริการโทรศัพท์   โทรศัพท์เคลื่อนที่  วิทยุ   โทรทัศน์   เคเบิลทีวี            

    5.5 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านการสาธารณสุข  สามารถนำมาประยุกต์ได้หลายด้าน  ได้แก่ -  ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล  (Hospital  Information System : HIS)  เป็นระบบที่ช่วยด้าน Patient  record  หรือเวชระเบียน  ระบบข้อมูลยา  การรักษาพยาบาล  การคิดเงิน            -  ระบบสาธารณสุข  ใช้ในการดูแลป้องกันโรคระบาดในท้องถิ่น            -  ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System)  เป็นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์วินิจฉัยโรค  และเริ่มผู้นำมาประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆมากขึ้น  เลยไปถึงเรื่องโรคพืชและสัตว์หลักการที่ใช้  คือ  เก็บข้อมูลต่างๆไว้ให้ละเอียด  แล้วใช้หลักการประดิษฐ์            5.6  การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานด้านการฝึกอบรมและการศึกษา                          การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษานั้น  มีแนวทางในการใช้มากมายขึ้นตั้งแต่ที่ใช้กันอยู่โดยทั่วไป


http://www.subnoi.com/jjj/DSC_0595.jpg

6.ซอฟแวร์เพื่อสังคม  (Social software)            

   6.1  ความหมายซอฟแวร์เพื่อสังคมคือซอฟต์แวร์ที่ทำให้ผู้คนสามารถนัดพบปะ  เชื่อมสัมพันธ์หรือทำงานร่วมกันโดยมีคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางเกิดเป็นสังคมหรือชุมชนออนไลน์คำนี้มีความหมายมากกว่าสื่อเก่าๆอย่าง Mailing  List  และ  UseNet  กล่าวคือหมายรวมถึง  E-mail,msn,instant messaging,web,blog และ  WiKi          

   6.2  ชนิดของเครื่องมือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร

http://internationaltravelchickdotcom.files.wordpress.com/2011/10/mobile-phones1.jpg

      เครื่องมือซอฟแวร์สังคม   สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทคือ  เครื่องมือเพื่อการสื่อสารและเครื่องมือเพื่อการจัดการความรู้1) เครื่องมือเพื่อการสื่อสาร   แบ่งออกเป็น   ประเภท  คือ  เครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสารสองฝ่ายไม่พร้อมกัน (asynchronous)  คือไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากัน  และอีกประเภทหนึ่งคือ  เครื่องมือที่ช่วยในการสื่อสารคนสองคนหรือเป็นนกลุ่มแบบสองฝ่ายพร้อมกัน2) เครื่องมือเพื่อการสร้างการจัดการความรู้  เป็นเครื่องมือในกลุ่มที่ใช้เพื่อประโยชน์เพื่อการจัดการความรู้    มีหลายอย่าง  โดยแบบเบื้องต้นเช่น   การสืบค้นข้อมูล

   6.3 ตัวอย่างเครื่องมือทางสังคมต่างๆ


https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjKyNvmW0ugev41U8kwCOLDKfENJjTkMvo4pyYlZXJdkDgKBn0OvKRcV8ds3hk9Wjh5BntJEAkgdAphRMiBeuNipbqNRDan3YkYLXUYq20HyMeT2MZZeR3Y3SyEX_GEfIpxRi4ie_N5c58/s1600/%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81.jpg

1)BlogBlog  มาจากคำเต็มว่า  WeBlog  บางครั้งอ่านว่า  We  Blog  บางคนอ่านว่า  Web  Log แต่ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน  Blog  คือการบันทึกบทความของตนเอง

2)Internet  Forum  Internet  Forum  เป็นส่วนหนึ่งใน  world  Wide Web ที่มีไว้สำหรับเก็บการอภิปราย  หรือ  ซอฟต์แวร์ที่มีให้บริการด้านนี้   ฟอรั่มในเว็บเริ่มประมาณปี  1995  โดยทำหน้าที่คล้ายกับ  bulletin  board  และ  newsgroup  ที่มีมากมายในยุค 1980s และ  1990s  ความเป็นชุมชนเสมือนของฟอรั่มเกิดจากผู้ใช้ขาประจำประเด็นที่เป็นที่นิยมของฟอรั่มทั่วไปมี  เทคโนโลยี  เกมคอมพิวเตอร์  และการเมือง  เป็นต้น

3)Wiki    Wiki  อ่านออกเสียง  “wicky”,”weekee”  หรือ “veekee”  เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถสร้างและแก้ไขหน้าเว็บเพจขึ้นมาใหม่ผ่านทางบราวเซอร์  โดยไม่ต้องสร้างเอกสาร  html  เหมือนแต่ก่อน  แต่  wiki  เน้นการทำระบบสารานุกรม

4)Instant  Messaging     เป็นการอนุญาตให้มีการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลบนเครือข่ายที่เป็นแบบ  relativeprivacy  ตัวอย่าง  client  ที่เป็นที่นิยมเช่น  Gtalk, Skype, Meetro, ICQ, Yahoo  Messenger , MSN  Messenger  และ  AOL  Instant  Messenger  เป็นต้น

5)Social  network  services จะอนุญาตให้ใครก็ได้แบ่งปันความรู้  สิ่งที่สนใจต่างๆร่วมกัน  เช่น  บางที่สร้างเพื่อเอาไว้นัดเดทกัน  เพราะฉะนั้นผู้ใช้ก็อาจจะโพสข้อมูลส่วนตัว  ที่อยู่  เพศ  เบอร์โทรศัพท์เพื่อให้ผู้อื่นที่สนใจสามารถค้นหาข้อมูลได้โดยสะดวก

6)Sosial  guides  เป็นที่สำหรับการนัดพบกันได้จริงๆบนโลก  เช่น  ร้านกาแฟ  ร้านอาหาร  เป็นต้น

7)Sosial  bookmaking   บางที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถโพส  list  of  bookmark (favoritewebsites)  ลงไปได้เพื่อแลกเปลี่ยนแหล่งข้อมูลที่ตนเองสนใจ

8)Social  Citations  มีลักษณะคล้าย   Sosial  bookmaking   มาก  แต่จะเน้นไปทางด้านการศึกษาของนิสิตนักศึกษาโดยอนุญาตให้ผู้ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ

9)Social  shopping  Applications  มีประโยชน์ในเรื่องการเปรียบเทียบสินค้า  ดูรายการสินค้า  เป็นต้น10)Internet  Relay Chat  หรือ  IRC จะอนุญาตให้ผู้ใช้สนทนาในห้อง  chat rooms  ซึ่งอาจมีหลายๆคนที่เข้าใช้งานในกลุ่มสนทนาในห้องดังกล่าว  ผู้ใช้สามารถสร้างห้องใหม่หรือเข้าไปในห้องใหม่หรือเข้าไปในห้องที่มีอยู่แล้วก็ได้11)Knowledge Unifying Initiator หรือเรียกย่อๆว่า KUI หรือ คุย” ในภาษาไทย หมายถึง การสนทนา



ซอฟต์แวร์เพื่อสังคม (Social software)  ใช้ประโยชน์ในการประมวลทางสังคม  (Socialcomputing) ในยุคที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เป็นทุนในการพัฒนาสังคม  ในยุคนี้มีความจำเป็นจะต้องสร้างระบบที่ก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมจากสมาชิกใน สังคมให้มากที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดพื้นที่การมีส่วนร่วมใหม่ให้กับ ภาคประชาสังคม

7. การสืบค้นสารสนเทศทางอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลขนาดใหญ่  จนได้รับสมญานามว่า  ห้องสมุดโลก”  ซึ่ง มีข้อมูลหลากหลายประเภทและมีแนมโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ดังนั้นในการที่เราจะค้นหา  ข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วนั้น  ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับแหล่งข้อมูลนี้  นั่นคือ  มักประสบปัญหาไม่ทราบว่าข้อมูลที่ต้องการนั้นอยู่ในเว็บไซต์ใด



http://btgsf1.fsanook.com/weblog/entry/185/928653/1.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น