วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

บทที่5 การจัดการสารสนเทศ


บทที่5 การจัดการสารสนเทศ



บทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ


http://www.library.kku.ac.th/library/images/stories/library/dd.gif


1. ความหมายของการจัดการสารสนเทศ
                การจัดการสารสนเทศ  หมายถึง  การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา และเผยแพร่สารสนเทศโดยจักให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกองค์การ โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมาใช้ในการจัดการ รวมทั้งมีนโยบาย หรือ กลยุทธ์ระดับองค์การในการจัดการสารสนเทศ  

2.  ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศ
                การจัดการสารสนเทศในสภาวะที่สังคมมีสารสนเทศเกิดขึ้นมากมาย ในลักษณะสารสนเทศท่วมท้นการจัดการสารสนเทศต่างๆเพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการเป็นความจำเป็นและมีความสำคัญทั้งต่อบุคคลในด้านการดำรงชีวิตประจำวัน การศึกษา และการทำงาน และมีความสำคัญต่อองค์การในหลายด้าน คือ ด้านการบริหารจัดการ การดำเนินงาน และกฎหมาย ดังนี้

 1.)ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อบุคคล
                การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลในด้านการดำเนินชีวิตประจำวัน การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพต่างๆ การจัดการสารสนเทศอย่างเป็นระบบ โดยการจัดทำฐานข้อมูลส่วนบุคคลนวมทั้งข้อมูลการดำรงชีวิต การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพต่างๆ ในการดำรงชีวิตประจำวัน บุคคลย่อมต้องการหลายด้านเพื่อใช้ชีวิตอย่างราบรื่น มีความก้าวหน้า และมีความสุข อาทิ การจัดการสารสนเทศด้านระบบการศึกษา เอื้ออำนวยให้บุคคลสามารถเลือกระบบการศึกษา การเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับบุคคลแต่ละคน สามารถเรียนรู้และศึกษาได้ตลอดเวลาตามความสนใจเฉพาะตน

http://www.sciencedaily.com/images/2009/06/090623090705-large.jpg


2.) ความสำคัญของการจัดการสารสนเทศต่อองค์การ
                การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อองค์การในด้านการบริหารจัดการ การดำเนินงาน และกฎหมาย ดังนี้
2.1)ความสำคัญด้านการบริหารจัดการ
                ผู้บริหารต้องอาศัยสารสนเทศที่เกี่ยวข้องทั้งกับสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกองค์การ เพื่อวิเคราะห์ปัญหา ทางเลือกในการแก้ปัญหา การกำหนดทิศทางขององค์การ ให้สามารถแข่งขันกับองค์การแข่งขันต่างๆ
2.2) ความสำคัญด้านการดำเนินงาน
                สารสนเทศนับมีความสำคัญต่อการดำเนินงานในหลายลักษณะเป็นทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงาน และหลักฐานที่บันทึกการดำเนินงานในด้านต่างๆ  การจัดการสารสนเทศช่วยให้การใช้สารสนเทศเพื่อรองรับการปฏิบัติงานตามกระแสงานหรือขั้นตอน จึงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการดำเนินงาน เอื้อให้เข้าถึงและใช้สารสนเทศได้อย่างสะดวก
2.3) ความสำคัญด้านกฎหมาย
                การจัดการสารสนเทศเพื่อการดำเนินงาน จำเป็นต้องสอดคล้องกับกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับในระดับภายในและภายนอกองค์การ ทั้งนี้เนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับต้องมีบทลงโทษ

http://blog.msu.ac.th/wp-content/uploads/2012/04/53.jpg


 3.  พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศ
                การจัดการสารสนเทศก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ได้กระทำมาเป็นระยะเวลายาวนานนับตั้งแต่รู้จักการค้นพบการขีดเขียน บันทึกข้อมูล  การจัดการสารสนเทศโดยทั่วไป แบ่งออกอย่างกว้างๆได้เป็น 2 ยุค เป็นการจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ และการจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์

http://www.specphone.com/web/wp-content/uploads/2011/04/android-developer-ars.jpg

4. แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ
                การจัดการสารสนเทศในอดีตมักมุ่งที่การจัดเก็บสารสนเทศเพื่อการเรียกใช่อย่างง่าย เป็นการจัดเก็บจัดเรียงตามประเภทสื่อที่ใช้บันทึก หรือตามขนาดใหญ่เล็กของเอกสารรูปเล่มหนังสือ เป็นต้น และต่อมา เมื่อสารสนเทศมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น มีหลายรูปแบบ การใช้ประโยชน์ในหลายวงการ ทั้งวงการธุรกิจ ภาครัฐ วิชาการและวิชาชีพต่างๆ ประกอบกับเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้การจัดการสารสนเทศมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น การจัดการสารสนเทศเป็นทั้งการจัดการการผลิต รวบรวม จัดเก็บ และการค้นหาเพื่อใช้ได้อย่างสะดวก มีระบบที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล

http://www.oknation.net/blog/home/user_data/file_data/201210/02/62421fb4f.jpg

5. การจัดการสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
                การนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ เช่น ระบบจัดการเนื้อหาหรือเอกสาร ระคลังข้อมูล ระบบเว็บไซด์ โครงการเหล่านี้น้อยรายที่จะประสบความสำเร็จ การสร้างการจัดการสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพนั้นมีหลายประเด็นต้องคำนึงถึง เช่น การเชื่อมต่อระบบต่างๆเข้าด้วยกัน ความต้องการทางธุรกิจที่หลากหลาย ปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จของโครงการการจัดการสารสนเทศ ต้องมีแบบแผนและหลักการที่สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการวางแผนและพัฒนาระบบได้


http://www.synaptic.co.th/images/ext_img/teamhands.png







วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

บทที่4 เทคโนโลยีสารสนเทศ


บทที่4 เทคโนโลยีสารสนเทศ





http://statics.atcloud.com/files/comments/153/1532696/images/1_display.jpg

1. องค์ประกอบของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

     ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศนั้นอาจกล่าวได้ว่าประอบขึ้นจากเทคโนโลยีสองสาขา คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
     1.1 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
      คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่าง ๆ และปฏิบัติตามคำสั่งที่บอก เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้
       1. ฮาร์ดแวร์ ประกอบด้วย 5 ส่วน ได้แก่
       - อุปกรณ์รับข้อมูล เช่น แผงแป้นอักขระ เมาส์ เครื่องตรวจกวาดภาพ จอภาพสัมผัส ปากกาแสง เครื่องอ่านบัตรแถบแม่เหล็ก และเครื่องอ่านรหัสแท่ง
       - อุปกรณ์ส่งข้อมูล เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ และเทอร์มินัล
       - หน่วยประมวลผลกลาง จะทำงานร่วมกับความจำหลักในขณะคำนวณหรือประมวลผล
       - หน่วยความจำหลัก มีหน้าที่เก็บข้อมูลที่มาจากอุปกรณ์รับข้อมูลเพื่อใช้ในการคำนวณ


https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgZakjzaiBAvZ44Z3Gcy4l7NTSDtgbyxzp_INeNwpiin4D0ksWiDiavKPK5O7pHNRIUokSrYcJZI5OHQu0WrJBQQZ9zMNoksZE80Jl_NLEj9GWshI22B9OqH9CC8Ea-ucNraUbs0rWI4sng/s1600/183_01_001.jpg

          2. ซอฟต์แวร์ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญและจำเป็นมากในการควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์  ซอฟต์แวร์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบและซอฟต์แวร์ประยุกต์ซอฟต์แวร์ระบบแบ่งออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ คือ
        - โปรแกรมระบบปฏิบัติการใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์พ่วงต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์
        - โปรแกรมอรรถประโยชน์ ในช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในระหว่างการประมวลผลข้อมูลหรือในระหว่างที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
     - โปรแกรมแปลภาษา ใช้ในการแปลความหมายของคำสั่งที่เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจและทำงานตามที่ผู้ใช้ต้องการ
ซอฟต์แวร์ประยุกต์แบ่งเป็น 3ชนิด คือ 
     -  ซอฟต์แวร์ประยุกต์เพื่องานทั่วไป เป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้งานทั่วไป ไม่เจาะจงประเภทของธุรกิจ
     - ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน เป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในธุรกิจเฉพาะ
     - ซอฟต์แวร์ประยุกต์อื่น ๆ เป็นซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง และอื่น ๆ


http://4.bp.blogspot.com/_iGZwoGkCr78/TISPI6z6CHI/AAAAAAAAAB8/oWwL9H_wQ8Q/s1600/3.gif

        สำหรับกระบวนการการจัดการสารสนเทศ เพื่อให้ได้สารสนเทศตามความต้องการอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และมีคุณภาพ จะเริ่มด้วยการคัดเลือก การจัดหา การวิเคราะห์เนื้อหา และการค้นคืน  สารสนเทศ ซึ่งกระบวนการจัดการหรือการจัดการสารสนเทศเพื่อให้สามารถผลิตสารสนเทศสนองความ  ต้องการของผู้ใช้ได้นั้น จะประกอบด้วย 3 วิธี คือ การนำเข้าข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และการแสดงผลข้อมูล

1.2 เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม
         เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม ใช้ในการติดต่อสื่อสารรับ / ส่งข้อมูลจากที่ไกล ๆ เป็นการส่งของข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่อยู่ห่างไกลกัน
       เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 6 รูปแบบ คือ
       1. เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เช่น ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศ ฯลฯ
       2. เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล จะเป็นสื่อบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เช่น เทปแม่เหล็ก บัตรเอทีเอ็ม ฯลฯ
       3. เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์
       4. เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์ จอภาพ ฯลฯ
       5. เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดทำสำเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร ฯลฯ
       6. เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูล ได้แก่ ระบบโทรคมนาคมต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งระยะไกล้และระยะไกลเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้สร้างสิ่งใหม่ให้กับสังคมปัจจุบันที่เรียกว่าเป็นสังคม ไร้พรมแดนหรือสังคมโลกาภิวัตน์



https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhj8fGIePbrgoK20TM35Jz2DvF5ieTBeu-JgwwvYXkWN8QyHiBAy9tItJmSIWV5yL4ETM54Krkh2PoQYun9-V-gtjq0UocUL6U4uX7nyTCYlCQ8OaM9vgBFLwMoLTFlP_Vvb6wghaNgoISm/s1600/thaikom.jpg

2. วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ
          วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศจากยุคอนาลอกสู่ยุคดิจิตอลนั้น มีความเป็นมาที่ยาวนานมากกว่าที่จะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันนี้
          การวิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีแบ่งเป็น 2 ด้านที่ควบคู่กันมา คือ วิวัฒนาการทางด้านคอมพิวเตอร์และวิวัฒนาการทางด้านการสื่อสาร
         ข้อมูลหรือสารสนเทศที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในระบบสื่อสาร เช่น ระบบโทรศัพท์ จะมีลักษณะของสัญญาณเป็นคลื่นแบบต่อเนื่องที่เราเรียกว่า “สัญญาณอนาลอก” แต่ในระบบคอมพิวเตอร์แตกต่างไป เพราะระบบคอมพิวเตอร์ใช้ระบบสัญญาณไฟฟ้าสูงต่ำสลับกัน เป็นสัญญาณที่ไม่ต่อเนื่อง เรียกว่า “สัญญาณดิจิตอล” เมื่อเราต้องการส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องอื่น ๆ ผ่านระบบโทรศัพท์ ก็ต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยแปลงสัญญาณเสมอ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า “โมเด็ม”


https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgZakjzaiBAvZ44Z3Gcy4l7NTSDtgbyxzp_INeNwpiin4D0ksWiDiavKPK5O7pHNRIUokSrYcJZI5OHQu0WrJBQQZ9zMNoksZE80Jl_NLEj9GWshI22B9OqH9CC8Ea-ucNraUbs0rWI4sng//183_01_001.jpg

วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556

บทที่3 การรู้สารสนเทศ



บทที่3 
การรู้สารสนเทศ
ที่มาhttp://joejakkrit.exteen.com/images/1186846604-surface08.jpg
     ในปัจจุบันซึ่งเป็นสังคมแห่งสารสนเทศ บุคคลในสังคมจำเป็นต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างท่วงทัน บุคคลทุกคนจำเป็นต้องการพัฒนาตนเอง เพื่อรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง สังคมปัจจุบันจึงเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
การรู้สารสนเทศ หมายถึง การรู้ถึงความจำเป็นของสารสนเทศ การเข้าถึงแหล่งสารสนเทศ การพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ดังนั้นการรู้สารสนเทศของบุคคล จะช่วยส่งเสริมให้บุคคลสามารถเข้าถึงสารสนเทศจากทั่วทุกมุมโลก และนำสารสนเทศออกเป็นความรู้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถจำแนกทักษะการเรียนรู้ได้เป็น 4 ลักษณะ คือ
1) ทักษะสารสนเทศและการสื่อสารไดแก่ ทักษะการรู้สารสนเทศและการรู้สื่อ ทักษะการสื่อสาร
2) ทักษะการคิดและการแก้ปัญหา ได้แก่ การวิเคราะห์ และการคิดเป็นระบบ
3) ทักษะปฏิสัมพันธ์และการชี้นำตัวเอง
4) การรับผิดชอบต่อสังคมจากทักษะการเรียนรู้ดังกล่าว

ที่มาhttp://www.bosch.co.th/innovationcontest/images/pic01.jpg

         การรู้สารสนเทศจึงเป็นเป้าหมายการเรียนรู้สำคัญของบุคคล การรู้สารสนเทศต้องอาศัยความสามารถในการเข้าถึง ประเมิน และการใช้สารสนเทศ การรู้สารสนเทศจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างคุณลักษณะให้บุคคลเป็นผู้มีความรู้ มีความคิดวิเคราะห์ มีความสามารถด้านสารสนเทศและช่วยให้บุคคลเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต
องค์ประกอบการรู้สารสนเทศ
1)ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศ ประกอบด้วยความสามารถทางกายภาพ
และสติปัญญาในการเข้าถึงสารสนเทศ
2)ความสามารถในการประเมินสารสนเทศ ประกอบด้วยความสามารถในการสังเคราะห์ หรือ ตีความ สามารถตัดสินใจด้ว่าแหล่งสารสนเทศใดมีความน่าเชื่อถือโดยอาศัยข้อเท็จจริงและความเที่ยงตรง
3)ความสามารถในการใช้สารสนเทศ ประกอบด้วยความเข้าใจประเด็นทางเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศ รวมถึงมารยาทการใช้สารสนเทศ

ที่มา https://wiki.stjohn.ac.th/groups/aec/wiki/welcome/images/5c56e.jpg

คุณลักษณะและความสามารถในการรู้สารสนเทศ
1) ตระหนักถึงความจำเป็นของสารสนเทศ
2) สามารถกำหนดขอบเขตสารสนเทศที่จำเป็น
3) เข้าถึงสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4) ประเมินสารสนเทศและแหล่งสารสนเทศได้
5) นำสารสนเทศที่คัดสรรแล้วสู่พื้นฐานความรู้เดิมได้
6) มีประสิทธิภาพในการใช้สารสนเทศได้ตรงตามวัตถุประสงค์
7) เข้าใจประเด็นทางเศรษฐกิจสังคมวัฒนธรรมและกฎหมายในการใช้สารสนเทศ
8) เข้าถึงและใช้สารสนเทศได้อย่างมีจริยธรรมและถูกกฎหมาย
9) แบ่งประเภทจัดเก็บและสร้างความเหมาะสมให้กับสารสนเทศที่รวบรวมไว้
10) ตระหนักว่าการรู้สารสนเทศช่วยให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต




ที่มา https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjkUBfygjF7SucnW-bRwrfNvyr615QcXZCo3NN3k31AxN9nf7oQE8yjDD4PqPKEahFB55BYOC6VX35zMybYjjs50KqiNgZZtahFRykRFQ5_xz5sqYd_Abq5E4Wa951LjHFSh300pX1ivkIz/s320/91760it.jpg

มาตรฐานของผู้รู้สารสนเทศ
มาตรฐานที่1 ผู้เรียนเข้าถึงสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
มาตรฐานที่ 2 ผู้เรียนประเมินสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณ และมีความสามารถ
มาตรฐานที่ 3 ผู้เรียนให้สารสนเทศอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ การเรียนรู้อย่างอิสระ
มาตรฐารที่ 4 ผู้เรียนมีอิสระในการเรียนรู้สารสนเทศและแสวงหาสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับความสนใจส่วนตัวได้
มาตรฐานที่ 5 ขั้นประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล
มาตรฐานที่ 6 ผู้เรียนมีอิสระในการเรียนรู้สารสนเทศ มุ่งแสวงหาสารสนเทศและสร้างองค์ความรู้อย่างยอดเยี่ยม
มาตรฐานที่ 7 ผู้เรียนสร้างประโยชน์ต่อชุมชนแห่งการเรียนรู้และสังคม เป็นผู้รู้สารสนเทศและตระหนักถึงความสำคัญของสารสนเทศที่มีต่อสังคมประชาธิปไตร
มาตรฐานที่ 8 ผู้เรียนสร้างประโยชน์ต่อชุมชนแห่งการเรียนรู้และสังคม เป็นผู้รู้สารสนเทศ และฝึกฝฝนให้มีพฤติกรรมที่มีจริยธรรม
ที่มา http://www.deedeejang.com/wp-content/uploads/2012/09/krotron-MayDay2.jpg
แนวทางส่งเสริมการรู้สารสนเทศ
แนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้สารสนเทศมีหลายแนวทาง โดยมี  5  ขั้นตอนได้แก่
ขั้นตอนที่ 1 การกำหนดภาระงาน (Task Definition)
ขั้นตอนที่ 2 การกำหนดกลยุทธ์แสวงหาสารสนเทศ (Information Seeking Strategies)
ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดแหล่งสารสนเทศและการเข้าถึงสารสนเทศ (Location and Access)
ขั้นตอนที่ 4 การใช้สารสนเทศ (Use of Information)
ขั้นตอนที่ 5 ขั้นประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล (Evaluation)
http://www.webandrank.com/images/seo_img.jpg
ประโยชน์ของการรู้สารสนเทศ
รูปแบบการเสริมสร้างการรู้สารสนเทศ 4 ขั้นตอน คือ กำหนดภารกิจ ตรงจุด เข้าถึงแหล่ง ประเมินสารสนเทศ และบูรณาการใช้งาน ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์โดยส่วนใหญ่ผู้สอนเริ่มเข้าใจและให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการรู้สารสนเทศให้แก่ผู้เรียนของตน โดยผู้สอนได้อำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สารสนเทศทั้งในสถาบันการศึกษาและในชุมชน พบว่าผู้เรียนส่วนใหญ่มีความสุขและชอบการเรียนสารสนเทศ


ที่มาhttp://www.jsfutureclassroom.com/uploads/contents/20120502185657.jpg






สุขสันต์วันสงกรานต์ สวัสดีปีใหม่ไทยค้า า า าาาา


วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2556

บทที่ 2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม


บทที่2



ที่มา https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjxwkEGlx-FZc4akdscjoQkS3e8qEzHnpZq5yVeUXYIj4Wb0fYRhi8Y8gKpIxLP6vakWSPzHUeeu1T0zHIHOEZaztjhFO7J3638QaSlIvXm93uZ3vDzXO7z-SJ7b9VPFLtabTLxsJKJVwk/s1600/123.gif

        ปลายศตวรรษที่ 20 โลกได้เข้าสู่ยุคของการปฏิวัติด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information
Technology Revolution) มีการนำทรัพยากรสารสนเทศมาใช้งานอย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทุกองค์กรนำกลไกการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีการนำเสนอข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบเพื่อควบคุมการปฏิบัติงาน มีการติดต่อสื่อสารและใช้คอมพิวเตอร์ในการตัดสินใจ รวมถึงการประมวลผลด้านต่างๆ

       ในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 แนวโน้มขององค์กรต่างๆ เริ่มมีการปรับฐานการลงทุนของภาคธุรกิจและ
อุตสาหกรรม ประกอบกับการปรับกระบวนการจัดการของภาครัฐบนฐานของความรู้เทคโนโลยีและการ
สื่อสารซึ่งทั้งหมดนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ก้าวกระโดดในกระบวนการพัฒนา (Anthony. 2006)
การปฏิวัติด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่สังคมอย่างมาก เทคโนโลยีและ
การสื่อสารเข้ามามีบทบาทต่อการดำ�รงชีวิตและวิถีชีวิตของมนุษย์ในสังคม ทั้งด้านความเป็นอยู่ การสื่อสารการทำงาน การคมนาคมและขนส่ง ธุรกิจและอุตสาหกรรม การแพทย์ วัฒนธรรม และการศึกษา  (C. andHuchinson. 2000)



ที่มา http://www.thaigoodview.com/files/u42613/images__2_.jpg



       ในปัจจุบันนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทำ�ให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และการสื่อสารได้รับการพัฒนาให้
มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและมีขนาดเล็กลง หรือที่เรียกว่า “นาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology)” ทำให้การ
สื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างฉับพลันผ่านทางด่วนสารสนเทศ (Information Superhighway)เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลกและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้การเข้าถึงสารสนเทศและบริการต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วและไร้พรมแดน โดยอาจเรียกได้ว่าเป็น“สังคมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Society)” หรือ “ชุมชอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Community)”(พงษ์ศักดิ์ ผกามาศ. 2553)



ที่มาhttp://www.thaigoodview.com/files/u9529/8.jpg



 เทคโนโลยีสารสนเทศกับการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน



- สารวนเทศได้กลายเป็นปัจจัยพื้นฐานปัจจัยที่ 5 
- สารสนเทศเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุด
- เทคโนโลยีสารสนเทศ คือเทคโนโลยีคู่โลกในต้นศตวรรษที่ 21


ที่มาhttp://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/network/it/banner.jpg



ยุทธศาสตร์สำคัญ

ความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพสมรรถภาพ
- การลดต้นทุนหรือค่าใช้จ่าย
- การเพิ่มคุณภาพของงาน
- การสร้างกระบวนการหรือกรรมวิธีใหม่ๆ
- การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ

ที่มาhttp://www.sci.ubru.ac.th/clinictech/pic3/technology.gif


วิวัฒนาการทางเทคโนโลยี


ราคาของฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ รวมทั้งค่าบริการสำหรับการเก็บการประมวลผลและการแลกเปลี่ยน เผยแพร่สารสนเทศมีการลดลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
พัฒนาการย่อส่วนของชิ้นส่วน ทำให้สามารถนำพาอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคมติดตามได้และพัฒนาการสื่อสาร
ผลกระทบสำคัญ 5 ประการ
- การสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ
- การปรับปรุงขบวนการผลิตและบริการ
- การยอมรับจากสังคม
- การนำไปใช้ประยุกต์ในภาคสาขาอื่นๆ
- การสร้างงาน


https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjTIgqHuIqSiUstZ9lY1b0-jjzMwmWk1d6blfV_7vXrmmGj5yrh7vwBCZtuF4ZPvjckflx-AM4CYPQTSBLHUJWUfAvUTuiePV9e461ZkMYqSuXagH54asCJwB-osN4lslMBUMnCEh-0GfGw/s1600/news_img_89923_1.jpg


 เทคโนโลยีสารสนเทศและการพัฒนาสังคม


- อุตสาหกรรมเทคโนโลยี ได้กลายเป็นอุตสาหกรรมการผลิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
- เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
- เพิ่มผลิตภาพ
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและในการสร้างกิจกรรมใหม่ๆ
- ลดต้นทุนการบริการ
- สร้างโอกาส



ที่มาhttps://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTxvDPBOUlRenT7ooMMr2LZPe_oQRYDFXklIvx0cYV7sk7obfjo



 สารสนเทศกับบุคคล


ความต้องการและการใช้สารสนเทศของบุคคลเพิ่มมากขึ้น
- ความรู้และความเข้าใจ
- ตัดสินใจแก้ปัญหา
ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
- ถอนเงิน
- ธนาคารอิเล็กทรอนิกส์
-การซื้อขายสินค้าทางพาณิช
- ประชุมทางไกล
- การศึกษาทางไกล


ที่มา :http://learners.in.th/file/haze2510/Article.jpg


 สารสนเทศกับสังคม


เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีเดียวที่มีบทบาทสำคัญต่อทุกสาขาอาชีพและส่งผลการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมได้
- ด้านการศึกษา
- ด้านสังคม
- ด้านเศรษฐกิจ = ขายข้อมูล
- ด้านวัฒนธรรม


ที่มาhttp://theeraporn14.files.wordpress.com/2012/08/technology-computer-tablets.jpg?w=930


บทบาทเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการศึกษา


- ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาคุณภาพ ประชาชนโดยเน้นที่การศึกษา
- อาศัยแหล่งความรู้และสารสนเทศจากทั่วโลก
- เข้าถึงความรู้และรู้จักวิธีแสวงหาความรู้
- ลดความเหลื่อมล้ำของโอกาสทางการศึกษา
- ความเท่าเทียมทางการศึกษา
- ผู้พิการมีโอกาสรับการศึกษาและการประกอบอาชีพ


ที่มาhttp://learners.in.th/file/yongyut-yut/4567.jpg



นวัตกรรม


- สื่อสารศึกษาในรูปแบบ CD รอม
- เทคโนโลยีเสมือนจริง - Virtual Reality
- การอบรมทางไกล - Tele Tranning
- กระประชุมทางไกล - Tele Conference
- การประชุมผ่าน Internet

ที่มาhttp://learners.in.th/file/nana_cn/innovation.png


จบแล้วจ้าูู^^



อร่อยจุงเบย*-*